เครื่องกลั่นสมุนไพรน้ำมันหอมระเหย
เครื่องกลั่นสมุนไพรน้ำมันหอมระเหย เป็นแบบอย่างการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ จากการประกวดกิจกรรมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2564 Download บทความเครื่องกลั่นสมุนไพรน้ำมันหอมระเหย
28 ม.ค. 2565
เครื่องเผาข้าวหลาม
เครื่องเผาข้าวหลาม รางวัลชนะเลิศ จากการประกวดกิจกรรมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2564 Download บทความเครื่องเผาข้าวหลาม
27 ม.ค. 2565
เครื่องขอดเกล็ดปลาอัตโนมัติ
เครื่องขอดเกล็ดปลาอัตโนมัติ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 จากการประกวดกิจกรรมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2564 Download บทความเครื่องขอดเกล็ดปลาอัตโนมัติ
15 ม.ค. 2565
โดรน (Drone) เพื่อการเกษตร
โดรน (Drone) เพื่อการเกษตร โดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle, UAV) หมายถึง อากาศยานที่ไม่มีคนขับ โดยสามารถควบคุมทิศทางได้ บินต่างระดับขึ้น-ลงได้ แม้ว่าจะถูกควบคุมจากระยะไกล โดรนมีรูปร่าง ขนาด รูปแบบ และการใช้งานที่แตกต่างกันไป ภาพจาก S.A.T.I Platform ปัจจุบันโดรนถูกนำมาใช้ในการเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ฉีดพ่นสารอารักขาพืช หว่านเมล็ดพืช พ่นปุ๋ย รดน้ำ ให้ฮอร์โมน ถ่ายภาพวิเคราะห์ ตรวจโรคพืช เป็นต้น การใช้โดรนในการเกษตรไทย สามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1. ลงทุนซื้อโดรนเพื่อใช้งานส่วนตัวและ/หรือให้บริการฉีดพ่นพืชแก่เกษตรกรที่ต้องการ โดยราคาโดรนเพื่อการเกษตรอยู่ในช่วงประมาณ 100,000-400,0000 บาท การลงทุนซื้อโดรนนอกจากจะใช้สำหรับแปลงเกษตรของตัวเองแล้ว ยังสามารถต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างฉีดพ่นพืชแก่เกษตรกรผู้ต้องการได้อีกด้วย ทั้งนี้ เกษตรกร/ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้จำหน่ายโดรนเพื่อการเกษตรในไทย อาทิ สติ (S.A.T.I), SGE (Spring Green Evolu-tion), b.a.t.h (Bug Away Thailand), โดรนเกษตร (Dronekaset), Phantom Thailand 2. รับบริการฉีดพ่นพืชด้วยโดรนผ่านผู้ให้บริการ (ผู้รับจ้างอิสระหรือองค์กร) เกษตรกรบางรายผู้ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงานฉีดพ่น และผู้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของโดรนที่สามารถช่วยลดต้นทุนการใช้สารฉีดพ่น และประสิทธิผลที่ให้สูงกว่าแรงงานคน แต่ไม่ประสงค์ลงทุนซื้อโดรนเองเนื่องจากต้นทุนที่สูง จะติดต่อผู้รับจ้างผู้รับจ้างอิสระหรือองค์กรให้บริการฉีดพ่นพืช ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลายราย โดยราคาค่าบริการขึ้นอยู่กับลักษณะที่ตั้งของแปลงเกษตร สารเคมีที่ใช้ ลักษณะพืช เป็นต้น ความคุ้มค่าของการใช้โดรนในการเกษตร 1. กรมวิชาการเกษตร ได้มีการทดลองนำโดรนมาพ่นสารชีวภัณฑ์ในแปลงผักคะน้า หอม ผักชี นาข้าว และ ไร่อ้อย ซึ่งพบว่าสามารถลดเวลาในการฉีดพ่นพืชเมื่อเทียบกับการฉีดพ่นโดยใช้แรงงานคนที่ใช้เครื่องสะพายหลังติดเครื่องยนต์ได้มากถึง 4-5 เท่า และลดปริมาณการใช้สารฉีดพ่นลงร้อยละ 30 - 50 2. สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ทำการวิจัย เรื่อง การศึกษาความคุ้มค่าการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่ช่วยทำนาในภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นในพื้นที่จังหวัดสระบุรี นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท พบว่า เกษตรกรที่มีการจ้างบริการโดรนในการพ่นสารกำจัดวัชพืช/แมลงศัตรูพืช และพ่นฮอร์โมนบำรุงข้าว ซึ่งการใช้โดรนสามารถลดเวลาลงเมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคน 3-5 เท่า (โดยขึ้นกับทักษะของผู้ควบคุมโดรน) สามารถลดปริมาณสารการใช้สารเคมีลงร้อยละ 15-20 ทั้งนี้ สำหรับค่าบริการพ่นสารเคมีโดยใช้โดรน จะเท่ากับค่าจ้างแรงงานคน คือ ไร่ละประมาณ 50-80 บาท แต่หากเป็นพื้นที่ห่างไกลจะมีการคิดค่าบริการเพิ่มขึ้นตามระยะทาง นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว การใช้โดรนยังช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการเหยียบย่ำพืชในระหว่างฉีดพ่น และลดความเสี่ยงเรื่องปัญหาสุขภาพจากการสัมผัสหรือสูดดมสารเคมี อุปสรรคในการเข้าถึงโดรนในการเกษตร สำหรับอุปสรรคในการเข้าถึงโดรนของเกษตรกรของไทย พบว่ายังขาดความรู้ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเกษตร ความรู้เรื่องประโยชน์และประสิทธิผลของการใช้โดรน และอาจมีพื้นที่ปลูกอยู่ห่างไกลจากพื้นที่ที่ใช้บริการโดรนฉีดพ่น ทำให้ไม่พบเห็นการใช้โดรนจากพื้นที่ใกล้เคียง ข้อมูลอ้างอิง 1. สติ, โดรนเพื่อการเกษตร. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2563, จาก https://sati-platform.com 2. สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, สศก. ปักหมุด พื้นที่ภาคกลาง-เหนือตอนล่าง ศึกษาความคุ้มค่าการใช้โดรนในนาข้าว. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2563, จาก www.oae.go.th/view/1/รายละเอียดข่าว/ข่าว%20สศก./31120/TH-TH บทความโดย 1. นางสาวปนิดา เอมประเสริฐสุข บริษัท เก้าไร่ บิวซิเนส โซลูชั่น จำกัด (www.gaorai.io) 2. นายบูรณะศักดิ์ มาดหมาย กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หากท่านมีข้อเสนอแนะสามารถแจ้งได้ที่ Email : iaid.dip.ind@gmail.com
10 พ.ค. 2563
เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray dryer)
เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยเปลี่ยนวัตถุดิบอาหารให้สะดวกต่อการใช้งาน เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray dryer) เป็นเครื่องแปรรูปวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นของเหลวให้เป็นผงแห้ง โดยการฉีดฝอยของเหลวให้กระจายเป็นละอองฝอยในถังอบลมร้อน ซึ่งเมื่อสัมผัสกับกระแสลมร้อนภายในห้องอบแห้ง จะทำให้น้ำในวัตถุดิบระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์/อาหารที่ได้มีลักษณะเป็นผงแห้ง ทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้นและสะดวกต่อการใช้งาน เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย สำหรับการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์ผง นอกจากจะใช้เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องจักรอื่นประกอบกับเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยเพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น อาทิ - เครื่องสกัดด่วน (Hi speed extractor) ซึ่งช่วยในการสกัดสารสำคัญจากวัตถุดิบ เช่น สกัดสารสำคัญให้ออกมาเป็นน้ำ- เครื่องระเหยข้น (Evaporator) ซึ่งช่วยระเหยน้ำส่วนเกินออกจากวัตถุดิบ เช่น ทำของเหลวให้เข้มข้นขึ้น ผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปด้วยเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอยให้เป็นผลิตภัณฑ์ผง อาทิ มะนาว ขิง ชา สมุนไพร รวมถึงอาหารสำเร็จรูป เช่น ปลาร้า น้ำผลไม้ การให้บริการทดลองผลิตน้ำเก๊กฮวยสกัดผงด้วยเครื่องอบแห้งพ่นฝอย ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 ตัวอย่างวีดิทัศน์หลักการแปรรูปสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์ผงด้วยเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย สำหรับเกษตรกรผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการให้บริการเครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย ณ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ อาทิ - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (จ.เชียงใหม่)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 (จ.พิษณุโลก)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 (จ.อุดรธานี)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 (จ.ขอนแก่น)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 (จ.สุพรรณบุรี)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 10 (จ.สุราษฎร์ธานี) หากท่านมีข้อเสนอแนะสามารถแจ้งได้ที่ Email : iaid.dip.ind@gmail.com
04 พ.ค. 2563
เครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze dryer)
เครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งแปรรูปอาหารที่ยังรักษาสภาพและคุณค่า เครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze Dryer) มีหลักการทำงานโดยการแช่เยือกแข็งวัตถุดิบ เพื่อให้น้ำในวัตถุดิบเปลี่ยนสถาพเป็นน้ำแข็ง จากนั้นจะทำการระเหิดน้ำแข็งออกจากวัตถุดิบโดยการกลายเป็นไอภายใต้สภาวะสุญญากาศ เนื่องจากกระบวนการทำแห้งที่ใช้แปรรูปนี้เกิดขึ้นที่อุณหภูมิต่ำ จึงลดการเสื่อมสภาพจากปฏิกิริยาโดยความร้อนและสารเคมี ดังนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารและผลไม้ฟรีซดราย จึงสามารถรักษากลิ่น สี รสชาติ และคุณค่าทางอาหารได้ดี นอกจากนี้ การระเหิดของน้ำแข็งยังช่วยลดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ทำให้สะดวกในการขนส่ง โดยสามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ที่อุณหภูมิห้อง เครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 จ.สุพรรณบุรี ผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปด้วยเครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง อาทิ เห็ด ทุเรียน สับปะรด ลำไย สตรอว์เบอร์รี อาหารทะเล และเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีฟรีซดรายยังสามารถประยุกต์ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จ ซึ่งเมื่อต้องการรับประทานก็อาจเพียงเติมน้ำ น้ำร้อนหรือน้ำปรุงรส เช่น น้ำพริกหนุ่มฟรีซดราย ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง ตัวอย่างวีดิทัศน์การผลิตผลิตภัณฑ์ฟรีซดรายจากผลไม้ สมุนไพร ปู สำหรับเกษตรกรผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการให้บริการเครื่องทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง ณ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ อาทิ - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (จ.เชียงใหม่)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 (จ.อุดรธานี)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 (จ.สุพรรณบุรี)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 (จ.ชลบุรี) หากท่านมีข้อเสนอแนะสามารถแจ้งได้ที่ Email : iaid.dip.ind@gmail.com
29 เม.ย. 2563
เครื่องทอดสุญญากาศ (Vacuum fryer)
มารู้จัก "เครื่องทอดสุญญากาศ" กันเถอะ เครื่องทอดสุญญากาศ (Vacuum fryer) หมายถึง เครื่องที่ใช้ทอดอาหารภายใต้สภาวะสุญญากาศ โดยอาจมีตะกร้าบรรจุวัตถุดิบลงถังทอด ตลอดจนอาจมีระบบปั่นเหวี่ยงสลัดน้ำมัน ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทอดที่ได้จะมีการดูดซึมน้ำมันน้อยกว่าการทอดโดยวิธีปกติ การทอดภายใต้สภาวะสุญญากาศจะลดการเกิดออกซิเดชัน ผลิตภัณฑ์ที่ได้จึงมีอายุการเก็บรักษา (Shelf life) นานขึ้น และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันที่ใช้ทอด เครื่องทอดสุญญากาศ ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 จ.สุพรรณบุรี ผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถนำมาแปรรูปด้วยเครื่องทอดสุญญากาศ อาทิ กล้วย มันฝรั่ง ทุเรียน ขนุน ฟักทอง เห็ด ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเครื่องทอดสุญญากาศ ตัวอย่างวีดิทัศน์การทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ แคปหมูลดไขมันด้วยเครื่องทอดสุญญากาศ สำหรับเกษตรกรผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการให้บริการเครื่องทอดสุญญากาศ ณ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ อาทิ - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 (จ.พิจิตร)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 4 (จ.อุดรธานี)- ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 (จ.ขอนแก่น) - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 (จ.นครราชสีมา) - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 (จ.สุพรรณบุรี) - ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 (จ.ชลบุรี) หากท่านมีข้อเสนอแนะสามารถแจ้งได้ที่ Email : iaid.dip.ind@gmail.com
14 เม.ย. 2563